ตาราง ออกของ dota

ตาราง ออกของ dota

ออกของdota  ตารางออกของdota  สูตรdota  ออกitem dota  วิธีออกของ dota วิธีออก item dota  

Read More

Ancient Apparition มัจจุราชน้ำแข็ง สยบทุกความเคลื่อนไหว

Ancient Apparition มัจจุราชน้ำแข็ง สยบทุกความเคลื่อนไหว

               นักฆ่าตัวใหม่ในนามของ DotA สาย Int ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงอัพเดตเวอร์ชั่น 6.65 ซึ่งก็คือฮีโร่ตัวใหม่ Ancient Apparition ความสามารถรวมๆ อาจจะเหมือนกับฮีโร่หลายตัว แต่ถ้าได้ลองนำมาใช้เล่นจริงๆ แล้ว จะเข้าใจว่ามันเป็นฮีโร่ตัวฆ่าที่เก่งรอบด้านจริงๆ
ทำความรู้จัก Ancient Apparition
                มันเป็นหนึ่งในฮีโร่ Int ที่เรียกได้ว่าตัวบางตายง่ายเอามากๆ แต่ถึงอย่างนั้นด้านความสามารถในการสนับสนุน และรูปแบบการเล่นของมันน่าสนใจและยากต่อการรับมือจริงๆ จุดเด่นที่น่าสนใจของ Ancient Apparition ก็คือการโจมตีและทำดาเมจที่ต้องยอมรับว่าสูงไม่แพ้ฮีโร่ Agi เลยทีเดียว โดยเฉพาะสกิลไม้ตายอย่าง Ice Blast เป็นไม้เด็ดที่ทำให้ศัตรูต้องเสียวได้ตลอดเวลา
เทคนิคการใช้สกิล
                การเล่น Ancient Apparition ที่ดีคือการใช้สกิลได้อย่างถูกจังหวะ เพราะสกิลทั้งสี่จะมีรูปแบบการทำงานที่คอมโบสนับสนุนกันเองอยู่แล้ว ในช่วงต้นเกมเริ่มต้นด้วยการอัพสกิล Cold Feet สลับกับ Ice Vortex ขึ้นมา โดยการใช้ Ice Vortex ลดความเร็วในการเคลื่อนที่เป้าหมายเอาไว้ และตามด้วย Cold Feet ซึ่ง จะเพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดแช่แข็งทำให้ได้รับความเสียหายแบบต่อเนื่องจาก สกิล ถือเป็นเทคนิคการคอมโบที่สามารถเปิดโอกาสให้ผู้เล่นอื่นในทีมตามเข้าสมทบได้ ดีมาก

 

ถ้าเจอฮีโร่ Blink ประชิดได้ จะเป็นปัญหาใหญ่มาก

               สกิล Chilling Touch เป็นเหมือนดาบสองคมที่เพิ่มค่าดาเมจในบริเวณที่สูงมากแต่ก็ต้องแรกกับความ เร็วโจมตีที่ลดลง ในการใช้งานหากใช้ให้ตัวมันเองก็คือว่าไม่ได้เสียหายอะไรนัก แต่หากใช้เพื่อสนับสนุนทีมควรจะเลือกด้วยว่าฮีโร่ตัวไหนเหมาะจะใช้งานมัน หากเป็นพวกที่เน้นความเร็วโจมตีแล้วละก็ 15% ที่ลดลงไปจะถือว่าสูงมากสำหรับฮีโร่ DotA บางตัว หากจะอัพควรอัพในช่วงกลางเกมหลังจากได้สกิล Cold Feet กับ Ice Vortex แล้วดีกว่า

Chilling Touch เอาไว้ใช้ยิงพวกอึดๆ ได้ดีมาก

               มาถึงสกิลเด็ดสุด Ice Blast สกิล นี้จะไม่มีระยะความไกลกำหนด เราสามารถปล่อยมันออกไปไกลแค่ไหนก็ได้ และกดอีกครั้งเพื่อหยุดเลือกตำแหน่งพร้อมกับปล่อยคลื่นที่สองตามออกไปเพื่อ ระเบิดสร้างความเสียหายในจุดที่เลือกเอาไว้ การใช้งานค่อนข้างยากมาก เพราะต้องเลือกเองกดเอง และมีระยะหน่วงก่อนการระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามผลของสกิลนอกจากสร้างความเสียหายแล้ว ยังทำให้ค่า HP ลดลงอย่างต่อเนื่อง และหากต่ำกว่า % ที่สกิลกำหนด ศัตรูนั้นๆ จะต้องตายในทันที

หลังจากกดยิงไปที่เป้าหมาย กดใช้สกิลอีกครั้ง ล็อคพื้นที่เอาไว้และปล่อยตัวจุดระเบิดตามมา

               ความรุนแรงของสกิลนี้ ถือว่าแรงสุดๆ ถ้าเราลองเอาค่าความเสียหายรวมกับการลด HP ต่อวินาทีมารวมกัน จะเห็นว่าค่าความเสียหายจริงนั้นสกิลเลเวล 3 ทำได้ประมาณ 770 Damage (ยังไม่หักลบป้องกันเวทย์) และยังส่งผลแบบกลุ่มด้วย

สกิลไม่นานทำให้ใช้เป็นสกิลเปิดก่อนก็ได้

เทคนิคการเล่น
                มันเป็นตัวทำเกมรุกอย่างไม่ต้องสงสัย และสามารถตามสนับสนุนทีมได้อย่างดี เล่นได้ทั้งการเป็นตัวสนับสนุน และเป็นตัวโจมตี เราสามารถใช้สกิล

Ice Blast เป็นตัวเปิดการโจมตีนำไปใส่กลุ่มศัตรูก่อน เพื่อสร้างความเสียหายแบบกลุ่ม หรือใช้ในจังหวะที่ศัตรูกำลังหลบหนีก็ได้ ส่วนสกิล


 

Cold Feet ให้พยายามใช้ในจังหวะที่ศัตรูเคลื่อนที่ไม่ได้หรือช้าลงจะดีกว่า อาจใช้คอมโบ

Ice Vortex เพื่อหยุดศัตรูเอาไว้เปิดจังหวะให้ทีมเข้าโจมตี แล้วค่อยอัดสกิล Ice Blast ทิ้งท้ายไว้ตอนหลังก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อยิงเปิดหมอกสำรวจเส้นทางได้ด้วย
     


               ผลของการฆ่าศัตรูทันทีจาก Ice Blast ยัง มีเงือนไขอีกหลายอย่าง เช่น การใช้แต่ละครั้งต้องรอให้คลื่นที่ไปถึงก่อน ซึ่งหมายความว่ายิ่งปล่อยไปไกลมาก ก็ยิ่งใช้เวลาก่อนระเบิดนานขึ้น และไม่มีผลต่อสกิล DotA ของ Shallow Grave ของShadow Priestร่วมถึงร่างโคลนของ Meepo ด้วย

ขอบคุณบทความจาก Vantus ด้วยครับ

Read More

Ancient Apparition

Kaldr 

Ancient Apparition

ชื่อที่ผมเรียกใน dota : เอเอ

 

ฮีโร่ใน DotA ชื่อของเขาที่คนนิยมเรียกคือ AA แต่ชื่อเข้าโรงเรียนผมก็ไม่รู้ นักฆ่าตัวใหม่ในนามของสาย Int ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงอัพเดตเวอร์ชั่น 6.65 ซึ่งก็คือฮีโร่ตัวใหม่ Ancient Apparition ความสามารถรวมๆ อาจจะเหมือนกับฮีโร่หลายตัว แต่ถ้าได้ลองนำมาใช้เล่นจริงๆ แล้ว จะเข้าใจว่ามันเป็นฮีโร่ตัวฆ่าที่เก่งรอบด้านจริงๆ

เทคนิคการใช้สกิล
               การเล่น Ancient Apparition ที่ดีคือการใช้สกิลได้อย่างถูกจังหวะ เพราะสกิลทั้งสี่จะมีรูปแบบการทำงานที่คอมโบสนับสนุนกันเองอยู่แล้ว ในช่วงต้นเกมเริ่มต้นด้วยการอัพสกิล Cold Feet สลับกับ Ice Vortex ขึ้นมา โดยการใช้ Ice Vortex ลดความเร็วในการเคลื่อนที่เป้าหมายเอาไว้ และตามด้วย Cold Feet ซึ่ง จะเพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดแช่แข็งทำให้ได้รับความเสียหายแบบต่อเนื่องจาก สกิล ถือเป็นเทคนิคการคอมโบที่สามารถเปิดโอกาสให้ผู้เล่นอื่นในทีมตามเข้าสมทบได้ ดีมาก

Skill

Cold Feet  ใช้สกิลใส่เป้าหมายจะโจมตีเป้าหมายนั้นในทุกวินาทีจนกว่าเป้าหมายจะออก จากระยะ 740 และเมื่อยังอยู่ในระยะของสกิลนั้น 4 วินาทีจะส่งผลทำให้ติดสถานะแช่แข็ง

Ice Vortex  สร้างอาณาเขตน้ำแข็งขึ้นมาทำให้ศัตรูที่เข้าในอาณาเขตนี้ ติดสถานนะ slow การเคลื่อนที่ลดลง พลังการต้านทานเวทย์ลดลงเป็นเปอร์เซ็น ระยะเวลาของสกิล 12 วินาที

Chilling Touch  บัพที่เพิ่มโบนัสพลังโจมตีให้กับฝ่ายตัวเอง เป็นเวลา 40 วินาทีแต่จะจำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ได้ตามเลเวล และฝ่ายตัวเองที่ได้บัพนี้ไปจะทำให้โจมตีได้ช้าลง 15%

Ice Blast  ปล่อยลูกพายุออกไปโจมตีสุดหน้าจอ และเมื่อกดใช้สกิลอีกครั้งจะเป็นการกดระเบิดพายุโจมตีตามเลเวลสกิล ศัตรูที่โดนแรงระเบิดของพายุจะติดสเตตัส Frost bite หรือหยุดการฟื้นคืน HP 7 วินาที และถ้าหากเป้าหมายนั้นมีเปอร์เซ็น HP น้อยกว่ากำหนดของแต่ละเลเวลจะเกิด Shatter ทำให้ตายได้

Read More

Butcher

Pudge
Butcher
ชื่อที่ผมเรียกใน dota : บัทเชอร์

Pudge
Butcher

 

เจ้าอสูรกายร้ายในเกมส์ DotA ชื่อของเขาคือ Pudge มันเกิดมาจากซากศพทั้งหลายที่นำถูกเย็บรวมกันแต่ละชิ้นส่วนของมันชั่วร้าย นัก สิ่งที่มันชอบก็คือเนื้อหวานๆของสิ่งมีชีวิตซึ่งถ้ามันหมายตาเหยื่อของมัน รายไหนแล้วไม่มีทางที่จะรอดไปได้ Ahh Freah Meat คือคำติดปากของมันมันมักจะพูดเวลาที่ได้ลิ้มรสเหยื่อ อาวุธของมันคือตะขอและมีดปังตออันมหึมาที่สามารถกระฉากเหยื่อได้ภายในพริบตา ด้วยรูปร่างที่อัปลักษณ์ทำให้มันทนทานจากการโจมตีมากและกลิ่นที่เหม็นอับ ชื้นที่จะทำให้เหยื่อรู้สึกมึนเมาและเชื่องช้าลงจึงสามารถที่จะทำให้เหยื่อ ตายได้อย่างรวดเร็ว
Play Guide สำหรับแนวทางการเล่น Pudge นั้นเราจะเป็นทั้งตัวหยุดเกม ดักฆ่า ตัวป่วน หรือจะเป็นแท้งก็ได้ โดยจะมีแนวทางการออกไอเทมคล้ายๆกัน

Skill

Meat Hook  ขว้างตะขอออกไปเป็นแนวตรง ซึ่งจะเกี่ยวและดึงยูนิทใดๆก็ตามที่โดนเข้ามาหา Pudge หากเป็นฝ่ายศัตรู จะได้รับความเสียหายรุนแรงด้วย

จุดเด่นของสกิล Meet Hook สกิลฮุคอันนี้ เป็นสกิลที่หลายๆ คนหวาดระแวงมาก เพราะเป็นตัวเปิดการโจมตีที่ดี สามารถใช้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดึงศัตรูเข้ามาฆ่าเอง หรือดึงตัวเปิดเกมของฝ่ายตรงข้ามออกมาจากลุ่ม เพื่อทำลายคอมโบ
ข้อควรระวัง ตำแหน่งของผู้เล่นและทิศทางการใช้สกิล เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในการใช้สกิลนี้ เนื่องจากถ้าใช้ผิดที่อาจจะได้ครีปมาแทนฮีโร่ ดังนั้นมุมในการยืนควรจะอยู่เฉียงๆ กับฮีโร่เป้าหมาย อย่าให้ครีปมาบังได้ หรือทางที่ดีก็ควรจะเข้าไปซุ่มในตำแหน่งที่ติด Fog เพื่อไม่ให้เป้าหมายรู้ตัวก่อน
เทคนิคพิเศษ การดึงผู้เล่นข้ามแม่น้ำ หรือดึงขึ้นมาบนเนินจะทำให้ทีมฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถเข้ามาช่วยเหยื่อที่โดน ดึงได่ทัน ดังนั้นอาจจะใช้ผู้เล่น 1-2 คน มายืนรอในตำแหน่งที่จะฮุคดึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามารุมสกรัม ก็จะทำให้กำจัดเป้าหมายได้เร็วขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าเป้าหมายจะหนีไปได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ควรจะเลือกดึงฮีโร่ตัวเปิดเกมของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาฆ่าเสียก่อน จากนั้นการบุกของทีมเราก็จะง่ายขึ้นมากแล้ว

Rot  ปล่อยเชื้อโรคกระจายออกมารอบตัว Pudge ทำให้ยูนิทโดยรอบเคลื่อนที่ช้าลง และทำความเสียหายตลอดเวลา ตัว Pudge เองก็จะได้รับดาเมจนี้ด้วย

จุดเด่นของสกิล พิษอันนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมายแล้ว ตัวผู้ใช้เองก็จะได้รับผลจากสกิลนี้ไปเต็มด้วยเช่นกัน ดังนั้นเวลาที่เลือกจะเปิดใช้ Rot ก็ควรจะดูค่า HP ของตนเองด้วย ว่าพอที่จะใช้ได้หรือเปล่า จุดเด่นอีกอย่างของสกิลนี้ก็คือ เมื่อเป้าหมายอยู่ในบริเวณสกิล Rot จะมีผลทำให้เคลื่อนที่ได้ช้าลงอีกด้วย ดังนั้นการต่อคอมโบกับสกิลนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย อาจจะใช้ Chain Frost ของ Lich ซ้ำเข้ามา หรือ Tidehunter เดินเข้ามาสตันทั้งกลุ่มเลยก็ได้
ข้อควรระวัง เนื่องจากตัวผู้ใช้จะได้ผลกระทบในการลดค่า HP จากสกิลนี้ด้วย ดังนั้นการออกไอเทมช่วงแรกๆ ควรจะเลือกไอเทมในการฟื้นฟูค่า HP อย่างเช่น Ring of Health หรือไอเทมที่เพิ่มค่า Max HP อย่าง Vitality Booster ก็ได้

Flesh Heap  สะสมซากศพฮีโร่ DotA ที่ตายในบริเวณระยะ 400 ได้เอาไว้ในตัวเอง เพิ่ม STR ให้กับ Pudge ทีละน้อย และเพิ่มความต้านทานทางเวทมนตร์ด้วย

จุดเด่นของสกิล Flesh Heap เป็นสกิลที่ใช้สะสมค่า STR ให้กับผู้เล่น จากการฆ่าครีปหรือฆ่าฮีโร่ แถมด้วยความสามารถในการต้านทานเวทย์ที่สูงถึง 16% สำหรับรูปแบบการอัพสกิลนี้ อาจจะอัพไว้ก่อนสัก 1 เพราะประโยชน์ของมันจะไม่มากเท่ากับ Meet Hook และ Rot ในช่วงแรกๆ ซึ่งใช้ฆ่าฮีโร่ได้ดีกว่า

Dismember  กัดขย้ำเป้าหมาย ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ และรับความเสียหายรุนแรง มีผลเป็นเวลา 3 วินาที  Channeling เมื่อมีไอเทม Aghanim's Scepter จะเพิ่มดาเมจ 175+1xSTR ดาเมจและดูดเลือดคืนจากดาเมจที่ทำได้

จุดเด่นของสกิล Dismember เป็นสกิลที่ใช้กัดหัวเป้าหมาย ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้เป็นเวลา 3 วินาที พร้อมกับลดเลือดเป้าหมายได้สูงถึง 175 หน่วยต่อวินาที ซึ่งถือว่าไม่มากนัก แต่ก็มีประโยชน์มากทีเดียว เมื่อใช้คู่กับสกิล Rot ซึ่งมีผลในการลดเลือดของเป้าหมายไปในตัว
เทคนิคพิเศษ จังหวัดการทำคอมโบของสกิลนี้ จะเริ่มจากการที่ผู้เล่นล็อคเป้าเหยื่อได้แล้ว จากนั้นก็ให้เปิด Rot แล้วทำการฮุคเป้าหมายเข้ามาแล้วกดใช้สกิล Dismember ในทันที ซึ่งในจังหวะที่ผู้เล่นกำลังกัดหัวคู่ต่อสู้อยู่นั้น ผู้เล่นในทีมยังสามารถรุมโจมตีเป้าหมายได้อีกด้วย ดังนั้นตำแหน่งการยืนของเพื่อนร่วมทีม ก็ควรจะนัดแนะตำแหน่งกันให้ดีเสียก่อน เพื่อให้ชุดคอมโบนี้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะทั้งสกิล Meet Hook และ Dismember ต่างก็มีค่า Cooldown ที่ค่อนข้างน้อยมาก ไม่ต้องรอนานก็สามารถใช้ได้อีกครั้ง

Read More

Razer ENADC II Grand Final : MYM vs Mouz

Razer ENADC II Grand Final : MYM vs Mouz

               สำหรับการแข่ง DotA ครั้งใหญ่ส่งท้ายปีของฝั่ง ยุโรปก็คือรายการ Razer ENADC II ซึ่งในปีนี้มีการชิงแชมป์ที่เข้มข้น และน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ทีมที่ขึ้นมาท้าชิงคือทีม Mouz ซึ่งปีนี้โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ครองแชมป์ในการแข่งได้หลายรายการ และรายการนี้ก็เบียดทีมเต็งทีมอื่นๆ ตกรอบไป และขึ้นมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศกับทีมขาประจำอย่าง MYM ได้ ซึ่งในรอบเพลย์ออฟนั้น ทาง Mouz ยังเอาชนะ MYM ไปก่อน 2:1 เกม ทำให้ได้แต้มพิเศษนำ MYM ไปก่อน 1-0 แต้มในรอบ Grand Final ดังนั้นแค่ชนะการแข่งกับ MYM อีกเพียงสองเกมก็จะได้แชมป์ไปครอง แต่ทาง MYM ก็ไม่ยอมพลาดท่าซ้ำเป็นครั้งที่สอง มีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และเอาชนะ Mouz ไปได้ 2:1 เกมเช่นกัน ทำให้แต้มในรอบ Grand Final กลายเป็น 2:2 แต้ม จึงต้องมีการแข่งนัดสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์กัน และ MYM ก็สามารถเฉือนเอาชนะ Mouz ในเกมสุดท้ายไปได้ จึงครองแชมป์ Razer ENADC II ไปได้อีกหนึ่งสมัย นับรวมจริงๆ แล้วการแข่งชิงแชมป์ปีนี้นั้นถ้ารวมรอบเพลย์ออฟ ด้วยแล้ว MYM กับ Mouz ได้แข่งชิงแต้มกันถึง 7 เกมเลยทีเดียว กว่าจะกินกันลงได้ จึงเป็นการแข่งที่เข้มข้น และถูกกล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก ฉบับนี้กระผมจะนำการแข่งเกมสุดท้ายมาวิเคราะห์ให้ได้อ่านกันนะครับ
Razer ENADC II Grand Final เกมตัดสิน

ฮีโร่ DotA ของทีม MYM

ฮีโร่ DotA ของทีม Mouz

               การเลือกฮีโร่ในรอบสุดท้ายนี้ทาง Mouz ค่อนข้างเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เพราะโดนแย่ง Earthshaker ตัวหลักไป แถมทาง MYM ก็ได้ตัวถนัดกันครบเกือบทั้งทีม ครบทุกตำแหน่ง โดยทาง MYM เน้นการใช้ Nuker AoE ตามถนัด มี Skeleton King เป็นตัวแท็งค์ และตัวความหวังช่วง Late Game เป็นรูปแบบทีมที่สมดุลทั้งช่วงวิ่งตัดเกม และช่วงรวมทีมกันสู้ ส่วนทาง Mouz ดูแล้วรับมือกับการถูกแย่งตัวหลักได้ไม่ดีนัก ตำแหน่งของฮีโร่ในทีมดูขาดๆ เกินๆ ไม่มีตัวเปิดเกมที่แน่นอน ไม่มี Nuke AoE และขาดตัวความหวัง Late Game ด้วย

รายละเอียดของเกม
               ช่วงต้นเกมนั้นทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสูสี ไม่มีใครถูกฝ่ายตรงข้ามกดดันได้อย่างเด่นชัด ซึ่ง Mouz ใช้ Watcher ของ Nerubian Weaver เป็นตัวสอดแนมทั่วแมพ เพื่อประหยัดการใช้ Ward ( สองทีมนี้ปัก Ward กันโหดมาก แต่ละเกมจะซื้อ Ward มาปักไล่กันฝ่ายละไม่ต่ำกว่า 60-70 อัน ) เข้าใจว่าเพื่อลดภาระด้านการซื้อ Ward ของฮีโร่ในทีมลง จะได้เอาเงินส่วนนี้ไปออกไอเทมมาเสริมทีมแทน ด้วยการมี Watcher จำนวนมากอยู่ทั่วแมพ ทำให้ทาง Mouz ครองเกมได้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำสกอร์ทิ้งห่างทาง MYM ไปมากนัก เพราะทาง MYM ก็มีการประสานงานกันดี วิ่งช่วยเหลือกันตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถวิ่งฆ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะทาง Mouz จะรู้ตัวก่อนเสมอๆ

นอกจากจะใช้ดูต้นทางแล้ว Watcher ยังคอมโบกับ Tinker ในการลอบสังหารได้อย่างดีเยี่ยม

               เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเกม ก็เป็นช่วงชิงชัยของทีมลอบสังหาร ฝั่ง Mouz นั้นมีตัววิ่งคือ Zeus, Tinker และ N’aix ซึ่งตอนนี้คอมโบเด็ดของ Mouz ก็ปรากฏ นั่นคือคู่คอมโบ Boot of Travel + Watcher โดย Tinker สามารถใช้ Boot of Travel วาร์ปไปยังจุดใดบนแมพก็ได้ เพราะมี Watcher ประจำตำแหน่งสำคัญๆ อยู่ทั่วไป เป็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยม โดยอาศัยการกดดันของ Zeus กับ N’aix ตอด HP แล้ว Tinker ก็จะวาร์ปไปดักหน้าเพื่อยิงจบสกอร์
                ถึงกระนั้น ตัวเล่นของทาง MYM ก็จัดเป็นตัวที่กินยากแทบทั้งนั้น บางตัวก็หลบหนีเก่ง หรือทำดาเมจได้สูงเพราะมี Nuke และ Disable ไว้ป้องกันตัว จึงทำให้ทีมวิ่งของ Mouz บาดเจ็บพอตัวกว่าจะฆ่าได้ แทีม MYM คนอื่นๆ ที่วิ่งเข้ามาเติมจึงสามารถเก็บแต้มคืนได้จากการโต้กลับได้ไม่ยาก แม้ทาง MYM จะไม่สามารถวิ่งฆ่าฝั่ง Mouz ได้ตามต้องการ แต่ก็ไม่ถูกทิ้งแต้มห่างมากนัก

แม้ทาง Mouz จะวิ่งฆ่าได้ดี แต่ MYM ก็วิ่งช่วยกันตลอด จึงเอาคืนได้แบบทันควันซะส่วนใหญ่

               ช่วงเลเวล 11+ ก็เป็นช่วงเอาคืนของทาง MYM ซึ่งเริ่มรวมทีมกันในการโจมตี ใช้ความได้เปรียบทางด้านตัวฮีโร่ DotA ที่เข้าปะทะกับทาง Mouz ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทาง Mouz ขาดตัวเปิดเกมที่แน่นอน รวมทั้งตัวทำดาเมจของทีมคือ Zeus กับ Tinker ก็มีการทำดาเมจเป็นแบบ Single Target ซะส่วนใหญ่ ผิดกับทาง MYM ที่มีตัวเล่นครบเครื่อง มี Skeleton King คอยแท็งค์ มี Earth Shaker คอยเปิดเกมในจังหวะแรก Faerie Dragon คอยตรึงในจังหวะที่สอง และฮีโร่ 4 ใน 5 ตัวในทีมต่างก็มี Nuke AoE ด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อเข้าปะทะกันเป็นทีมจึงได้เปรียบ Mouz เป็นอย่างมาก เพราะทำดาเมจต่อทีม Mouz เกือบทั้งทีมได้พร้อมๆ กัน แถมทาง Mouz ก็มีแต่ตัวนิ่มๆ ซะ 4 ใน 5 คน ส่วนเรื่องตำแหน่งผู้เล่นนั้น Mouz มี Warlock เป็นตัวเปิดเกมที่ตรึงฝ่ายตรงข้ามได้แค่ 1 วินาที และแทบไม่มี AoE เลย การสู้ต้องเล็งฆ่าเป็นตัวๆไป ซึ่งทาง MYM ก็มีแต่ตัวฆ่ายากๆ แทบทั้งนั้น เมื่อถึงช่วงนี้ของเกม ทาง MYM จึงเริ่มชิงความได้เปรียบมาจาก Mouz มากขึ้นเรื่อยๆ

เข้าสู่ช่วงตะลุมบอน ความได้เปรียบของ MYM ด้านการประสานคอมโบของฮีโร่ก็เริ่มปรากฏ

               เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทาง Mouz ก็เริ่มจะรู้ชะตากรรมลางๆ แล้ว เพราะไม่สามารถกดดันทิ้งห่าง MYM อย่างที่วางแผนเอาไว้ได้ ตัวผู้เล่นในทีมก็เน้นการวิ่งฆ่ามากเกินไป ไม่มีคอมโบที่ใช้ในการเล่นเป็นทีมเลย ตัวแท็งค์ก็มีแค่ N’aix ซึ่งไม่ได้อึดอะไรนัก Nerubian Weaver ก็ไม่ได้ออกไอเทมสำหรับทำดาเมจ (ออก Black King Bar แทน และดูเหมือนกำลังพยายามออก Orchid Nalevolence ต่อ) ไม่มี Nuke AoE เลย และไม่มีตัวความหวังสำหรับ Late Game

ทาง Mouz เริ่มต้านการบุกไม่อยู่

               ผิดกับทาง MYM ที่ต่อคอมโบกันดีๆ แค่ชุดเดียวก็ฆ่า Mouz ได้ยกทีมแล้ว และ Skeleton King ก็ออก Radiance แล้วเรียบร้อย วิ่งเก็บ Watcher ของ Mouz อย่างสนุกสนาน แม้สกอร์จะยังไม่ทิ้งห่าง แต่โดยรูปเกมแล้วทาง Mouz ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว จะบุกก็บุกไม่ขึ้น พอโดนบุกก็ต้านการบุกไม่อยู่เลย เวลาปะทะกันก็โดนตีกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง ยิ่งทำให้  ความสามารถในการทำดาเมจที่มีจำกัดอยู่แล้วยิ่งน้อยลงไปอีก ไม่สามารถทำอะไรกับ Skeleton King ได้เลย

แม้จะพยายามรวมทีมกันต้านการบุก แต่ก็โดนคอมโบของ MYM จนแตกพ่าย

               ช่วงก่อนจบเกมยิ่งพลาดหนัก โดยวิ่งออกไปโดนฆ่าทีละตัว ทำให้เสีย Barrack ซ้ายไปแบบง่ายๆ (จริงๆ แล้วถึงอยู่ครบก็กันไม่อยู่) แม้จะรวมกำลังกันอีกครั้งพยายามต้าน แต่ก็โดนการประสานคอมโบของทาง MYM อัดจนแตกกระเจิงกลับมา โดยทาง Mouz ไม่สามารถทำอะไร Skeleton King ได้เลย เพราะแผนรับมือ Skeletn King เดิมนั้นคือใช้ N’aix โจมตีเปิดเพื่อลด HP แล้วใช้ Nuke ยิงฆ่า แต่เมื่อโดนตีกันจนกระจัดกระจาย N’aix เองก็ยืนสู้ไม่ไหว และไม่มีคนช่วยตรึงอยู่แล้วด้วย ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เลนซ้ายนั้น Skeleton King ก็เก็บทีม Mouz ไป 4 คน คว้า Godlike เป็นที่เรียบร้อย แล้วทีม Mouz ก็ประกาศยอมแพ้ไปในที่สุด

Skeleton King แรงจนหยุดไม่อยู่ เก็บทีม Mouz 4 คนรวด ได้ Godlike ก่อนจบเกม

ปัจจัยต่อผลแพ้ชนะของเกม
               สิ่งที่มีผลต่อการแพ้ชนะของเกมนั้นเห็นได้ตั้งแต่การเลือกตัวฮีโร่เลยที เดียว ซึ่งดังที่บอกไปก่อนหน้า ว่าทาง MYM มีตัวผู้เล่นครบตำแหน่งกว่า ลุยเดี่ยวก็ได้ ทำคอมโบกันก็ดี จะเล่นเกมไว หรือยื้อเกมยาวก็ไม่มีปัญหา ผิดกับทาง Mouz ที่ตำแหน่งตัวเล่นเน้นไปทางการวิ่งลอบสังหารเป็นหลัก โดยการเลือกฮีโร่แบบนี้ ถ้าไม่สามารถกดดันฝ่ายตรงข้าม จนทิ้งห่างทั้งเลเวล และไอเทมได้พอสมควรจริงๆ ก็ยากที่จะเอาชนะเกมนั้นไปได้ ซึ่งด้วยเกรดของการแข่งขันระดับนี้แล้ว เรื่องที่จะกดดันฝ่ายตรงข้าม ทิ้งห่างได้เป็นสิบๆ คิลนั้นเกิดขึ้นได้ยาก เพราะทั้งสองทีมต่างก็มีฝีมือ และทีมเวิร์คที่สูงไม่แพ้กัน อัตราการใช้ Ward คุมแผนที่ก็สูง อีกทั้งในเกมนี้ตัวฮีโร่ของทาง MYM ก็ล้วนแล้วแต่ตายยากตายเย็น ทั้ง Queen of Pain ที่มี Blink หรือ Faerie Dragon ก็วาร์ปหนีด้วย Illusory Orb ได้ ส่วน Skeleton King ก็อึดสุดๆ และมีสองชีวิต อีกสองตัวคือ Earth Shaker กับ Lich ก็มีความสามารถในการทำดาเมจสูง ทำให้บ่อยครั้งที่แม้ทาง Mouz จะลอบฆ่าได้ แต่ก็โดน MYM วิ่งเอาคืนแบบทันควันทุกครั้งไป ทั้งนี้ต้องยกย่องทีมเวิร์คของ MYM ด้วย ที่วิ่งช่วยกันตลอดเวลาที่เกิดการปะทะ ถึงช่วยไม่ทันก็ยังเก็บแต้มคืนได้ จึงยิ่งทำให้ถูกทำสกอร์ทิ้งห่างได้ยาก ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลให้ Mouz พ่ายแพ้ไปในที่สุด

สรุปส่งท้าย
               ก็นับว่าเป็นที่น่าเสียดายมากสำหรับทีม Mouz ซึ่งขับเคี่ยวขับ MYM มานาน และจริงๆ แล้วได้เอื้อมมือข้างนึงไปคว้าแชมป์เอาไว้ได้แล้ว เพราะมีแต้มต่อจากการเพลย์ออฟ ขอแค่ชนะอีกสองเกมก็จะได้แชมป์แล้ว แต่ทาง MYM ก็ทนทายาท พลิกชนะไปได้ 2:1 เกม จนต้องมาตัดสินกันที่เกมสุดท้ายนี้ และก็เป็นทาง MYM ที่เอาชนะไปได้ เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน DotA ในครั้งนี้ได้ อย่างไรก็ตามนับว่าปีนี้ทาง Mouz ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก และได้ขึ้นทำเนียบทีมชั้นนำในฝั่งยุโรปไปอีกทีม เทียบเคียงกับ MYM และ SK ได้อย่างสบายครับ

Read More